เลื่อย ตัดได้ทั้งไม้ ทั้งเหล็ก
อุปกรณ์การช่างสำหรับช่างมือเก่าและมือใหม่นั้นก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ซึ่งแต่ละชิ้นนั้นมีหน้าและมีความสำคัญแตกต่างๆ กันออกไป ขึ้นอยู่กับในสถานการณ์ว่านายช่างจะหยิบเครื่องมือช่างชิ้นไหนออกมาใช้งาน โดยถ้าเป็นช่างมือเก๋าๆ จะรู้ได้ทันทีว่าไปตรงนี้จะต้องใช้เครื่องมือช่างชนิดไหน ไปตรงนั้นจะต้องใช้อะไรบ้าง และเครื่องมือช่างที่จะกล่าวถึงในบทนี้คือ “เลื่อย” อุปกรณ์ที่ใช้ตัดสิ่งต่างๆ ได้อย่างเอนกประสงค์และรวดเร็วหากใช้หยิบใช้ได้ถูกประเภทของงาน
เลื่อยมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แต่แบบที่เรามักจะเห็นช่างหยิบมาใช้บ่อยที่สุดคงจะเป็น “เลื่อยลันดา” กับ “เลื่อนตัดเหล็ก” โดยเลื่อยลันดาจะมีลักษณะใหญ่มีด้ามจับอยู่ปลายโคนขนาดตั้งแต่ 22 – 24 นิ้ว ส่วนใบเลื่อยจะมีฟันที่ถี่นั่นใช้สำหรับการเลื่อยไม้ให้มีหน้าเรียบโดยเฉพาะใบเลื่อยนั้นทำมาจากเหล็กสปริงยาวปลายเรียว ขนาดความยาวของใบเลื่อยมีตั้งแต่ 14 – 28 นิ้ว ขึ้นอยู่กันหน้างานด้วย ส่วนเลื่อยเหล็กนั้นทำจากเหล็ก มีตัวล็อคใบเลื่อยและสามารเปลี่ยนใบเลื่อยได้ จะมีขนาดเดียวตามาตรฐานคือ 12 นิ้วด้วยกัน ใช้สำหรับตัดเหล็ก, หัวน็อตต่างๆ และท่อพีวีซี เหมาะสำหรับงานที่มีพื้นที่จำกัด
สำหรับวิธีใช้เลื่อยนั้น อย่างแรกเลยคือต้องหาจุดโฟกัสตรงที่เราจะเลื่อย ส่วนมากจะใช้ปากกาหรือดินสอทำสัญลักษณ์เอาไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน จากนั้นจับตรงด้ามจับให้มั่นคงและใช้เอาปลายเลื่อย (ไม่ต้องถึงปลายมากนัก) สัมผัสไปที่วัสดุที่จะตัดจากนั้นก็ใช้แรงดันใบเลื่อยไปด้านหน้าให้ใบเลื่อนกินเข้าไปในเนื้อไม้ก่อน โดยตอนแรกต้องทำอย่างช้าๆ จากนั้นพอใบเลื่อยกินเนื้อไม้เข้าไปแล้ว ต้องมั่นใจว่าจังหวะที่เราเลื่อยนั้นใบเลื่อยจะไม่เกิดอาการกระเด้งไปมาซ้าย – ขวา เพราะบางครั้งอาจะเกิดชำรุดของใบเลื่อย ทั้งนี้เวลาเลื่อยต้องพยายามเลื่อยให้เป็นเส้นตรงตามที่ได้มาร์คจุดเอาไว้ในตอนแรก
สำหรับเลื่อยเหล็กนั้นจะมีวิธีใช้ที่คล้ายๆ กัน แต่เลื่อยเหล็กด้วยความที่มีขนาดเล็กและมีตัวยึดใบเลื่อยอย่างแข็งแรงทำให้การใช้งานง่ายกว่าเลื่อยลันดา แต่ทั้งนี้ทั้งนี้เป็นเพราะเลื่อยเหล็กมักจะใช้ในการตัดท่อพีวีซีและเหล็ก รวมถึงต้องใช้ในพื้นที่จำกัด เลยทำให้มีการใช้งานที่ง่ายกว่า สำหรับวิธีเก็บนั้นหลังจากใช้เสร็จให้เอาผ้าเช็ดฝุ่นที่ติดตามใบเลื่อยให้สะอาด พยายามอย่าให้เกิดสนิมเด็ดขาด จากนั้นก็เก็บใส่เข้ากระเป๋าหรือซอง ส่วนเลื่อยเหล็กก็ทำความสะอาดคล้ายๆ กันเอาผ้าเช็ดฝุ่นออกให้ นำใบเลื่อยออกจากตัวฐานและเก็บให้ดีๆ และสำคัญคือก่อนใช้ทุกครั้งต้องตรวจใบเลื่อยให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน เพราะจะได้ไม่เกิดอันตรายระหว่างทำงานได้