เซรามิก มีกี่ประเภท วัสดุทนทาน ใช้งานง่ายสวยงาม

เซรามิก มีกี่ประเภท วัสดุทนทาน ใช้งานง่ายสวยงาม

เซรามิก เป็นที่นิยมของชาวไทยชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีความทนทาน ใช้งานง่าย สวยงาม สามารถนำมาเป็นของตกแต่งบ้านเรือนได้ ซึ่งคนส่วนไทยอาจรู้จักเซรามิกอยู่ไม่กี่อย่าง แบบที่รู้จักกันอย่างมาก ก็เช่น พวกจาน เครื่องปั้นต่างๆ แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่า จริงๆแล้วเซรามิกคืออะไร และเซรามิกมีกี่ประเภท

          เซรามิก ( ceramic )  เซรามิกมีรากศัพท์มาจากภาษากรีก keramos มีความหมายว่า สิ่งที่ถูกเผาด้วยความร้อน วัสดุที่เริ่มต้นจากสารอนินทรีย์มาประกอบกันเกิดปฏิกิริยาที่อุณหภูมิสูง เกิดการ sintering (หลอมตัว) จนทำให้โครงสร้างผลึกเปลี่ยนไปจากเดิม ในอดีตวัสดุเซรามิกที่มีการใช้งานมากที่สุดคือ เซรามิกดั้งเดิม ทำมาจากวัสดุหลักคือ ดินเหนียว โดยในช่วงแรกเรียกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ว่า ไชนาแวร์ เพื่อเป็นการให้เกียรติให้กับคนจีนซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการผลิตเครื่องปั้นดินเผารุ่นแรกๆ    เมื่อทราบแล้วว่าเซรามิกคืออะไรแล้ว เราควรมาศึกษาต่อว่า เซรามิก มีกี่ประเภท เพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานที่เหมาะสมกับประเภทของเซรามิก

ประเภทของเซรามิกแบ่งออกย่อยๆ ได้หลายประเภท

• พอร์ซเลน ( Porcelain ) เป็นเซรามิกที่มีเนื้อสีขาว เคลือบผิวเป็นมันโปร่งแสงมีความแข็งแกร่งเหมือนแก้วไม่ดูดซึมน้ำ  ผลิตภัณฑ์พอร์ซเลน ใช้ได้หลอกหลายทั้งในชีวิตประจำวันและอื่นๆ หินอ่อนเซรามิก กระเบื้องพอร์ซเลน

• โบนไชน่า ( Bone China ) เป็นเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีที่สุด มีราคาแพงที่สุด มีความขาวและเคลือบเป็นมันวาวมาก เนื้อละเอียด บางเบา  และโปร่งแสงมีความแข็งแรงมาก ผลิตภัณฑ์จากโบนไชน่า เช่น ถ้วย ชาม เครื่องประดับ เป็นต้น

• เอิร์ธเธินแวร์ ( Earthenware )

เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิกเคลือบผิวทึบแสง มีความพรุน สามารถ ดูดน้ำได้  เนื้อละเอียด สีไม่ขาวมาก  ผลิตภัณฑ์จากเอิร์ธเธินแวร์ เช่น หม้อดินเผา คนโท กระถางต้นไม้ กระเบื้องมุงหลังคา คนโท

• สโตนแวร์  ( Stoneware) เป็นกลุ่มดินผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายในการเลือกใช้ งานหล่อ ดินงานปั้น งานอัดปั๊ม เหมาะกับผลิตภัณฑ์สำหรับปรุงอาหาร ลักษณะเด่นคือ เป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นหนา และหนัก เน้นความแข็งแรงทนทาน

• เทอราคอตตา ( Terra Cotta ) เป็นผลิตภัณฑ์มี่ทีดินเหนียว ผิวดินเผา มักมีสีแดง เนื้อแกร่ง มีความพรุน  ส่วนมากเป็นผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระเบื้องบุผนัง
• แก้ว ( Glass ) เป็นเซรามิกที่โปร่งแสง บางชนิดขุ่น เช่น หลอดไฟ แก้ว กระจก เป็นต้น

• วัสดุทนไฟ ( Refractories ) เป็นวัสดุประเภทอนินทรีย์ พวกดิน หิน แร่ธาตุ ที่หลอมตัวได้ยากในอุณหภูมิสูง ต้องทนอุณหภูมิสูงได้อย่างน้อย 1,600 องศาเซลเซียส ตัวอย่างวัสดุทนไฟ ได้แก่ อิฐทนไฟ อิฐฉนวนทนไฟ

จากประเภทและตัวอย่างเซรามิกที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ชัดว่า การที่เราทราบความหมายที่แท้จริงของเซรามิกและทราบว่า เซรามิกมีกี่ประเภท และมีประเภทไหนบ้างนั้น ทำให้เราทราบการใช้งานที่แตกต่างกันและประโยชน์ที่มากมายของเซรามิก ทั้งนี้งานเซรามิกอยู่รอบตัวและชีวิตประจำวันของเรา คลอบคลุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะของใช้ หรืออุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ เป็นงานศิลปะอีกอย่างหนึ่ง ที่เราควรเรียนรู้และศึกษาการใช้งานให้เป็นอย่างดี

^{สาระงานช่าง}