ระดับน้ำองศา เครื่องมือวัดความลาดเอียงได้แม่นยำ
อุปกรณ์ช่างนั้นมีมากมายหลากหลายชนิดด้วยกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็น สว่าน ไขควง ค้อน ตะปู เลื่อย สารพัดสิ่งชนิดที่ว่ามากมายจนจำไม่ไหวเลยทีเดียวค่ะ และแต่ละชนิดก็มีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไปค่ะ ในการใช้งานแต่ละงานเราจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกอุปกรณ์นั้น ๆ ให้เหมาะสมกับงานนั่นเองค่ะ หากวันนี้เราต้องการเจาะผนังเพื่อยึดกรอบรูปสวย ๆ ไว้บนผนังแล้วล่ะก็ เราจะมาเลือกใช้เลื่อยในการเจาะผนัง ก็คงจะไม่ได้ หรือจะนำสว่านไปตัดไม้ก็คงจะไม่ได้อีกเช่นกันใช่ไหมล่ะคะ แล้วถ้าเราต้องการการวัดที่แม่นยำล่ะ เราจะใช้อุปกรณ์ชนิดไหนดี ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เพราะวันนี้เรามีอุปกรณ์ชิ้นนึงมาให้ทุกท่าน ได้ทำความรู้จักกัน นั่นก็คือ “ระดับน้ำจานองศา” นั่นเองค่า หลาย ๆ ท่านอาจจะเคย ได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้วนะคะ หรือบางท่านอาจจะรู้จักแต่ระดับน้ำ และอาจจะยังไม่ทราบว่าระดับน้ำจานองศา คืออะไร ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะวันนี้เรามีคำตอบ
ก่อนจะไปพูดถึงระดับน้ำองศา ขอเกริ่น ๆ เกี่ยวกับระดับน้ำทั่ว ๆ ไปให้ฟังกันก่อนนิดนึงงงนะค้า เพื่อให้รู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นนี้มากยิ่งขึ้น ถ้าจะพูดถึงการใช้งานของระดับน้ำแล้วล่ะก็ ระดับน้ำนั้นถูกนำมาใช้งานในหลาย ๆ ด้านเลยล่ะค่ะ ทั้งด้านการสร้างอาคาร การทำถนน การสำรวจ การติดตั้งเครื่องจักร และอีกหลาย ๆ งานที่ต้องใช้ความแม่นยำในการคำนวณสูงค่ะ ระดับน้ำโดยทั่ว ๆ ไปจะถูกนำมาใช้ในการวัดความลาดเอียงของพื้นค่ะ ว่าสม่ำเสมอกันดีไหม โดยเราจะนำระดับน้ำวางแนบไปกับพื้นและสังเกตุฟองอากาศที่อยู่ในหลอดแก้วค่ะ
ถ้าหากว่าฟองอากาศนั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างเส้น 2 เส้น เท่ากับว่าพื้นนั้นไม่มีความลาดเอียงค่ะ ซึ่งหลักการทำงานของระดับน้ำก็คือ การเคลื่อนที่ของฟองอากาศที่เกิดขึ้นภายในหลอดแก้วนั่นเองค่ะ ที่จะทำการเคลื่อนที่ไปสู่ตำแหน่งสูงสุด โดยอาศัยหลักการของแรงโน้มถ่วงโลก ดังนั้น เราจะหามุมที่ลาดเอียงของระดับน้ำได้จากระยะการเคลื่อนที่ของฟองอากาศนั่นเองค่ะ ซึ่งนั่นก็คือการทำงานของระดับน้ำแบบทั่วไปที่เราเห็นนั่นแหละค่ะ แต่ปัจจุบันระดับน้ำก็มีการพัฒนาออกมาหลายรูปแบบด้วยกันค่ะ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ระดับน้ำจานองศาค่ะ ที่มีหลักการและวิธีการทำงานเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีองศามาให้วัดด้วยนั่นเองค่ะ โดยมีการออกแบบให้คล้ายคลึงกับไม้โปรครึ่งวงกลมที่เราคุ้นเคยกันเนี่ยแหละค่ะ เพื่อจะได้บอกถึงองศาของความลาดเอียงได้แม่นยำขึ้นนั่นเอง
อย่างที่ได้เกริ่นไปตั้งแต่ต้นนะคะ เราควรเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อใช้งานให้ถูกวิธีและเกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งวิธีการรักษาที่ถูกต้องก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะยืดอายุการใช้งานให้กับอุปกรณ์ของเราด้วยค่ะ