ตู้เชื่อม เครื่องมือช่าง อุปกรณ์สำคัญที่งานโลหะห้ามขาด
อุปกรณ์การช่างสำคัญๆ หลายอย่างที่บรรดาช่างต้องใช้งานนั้นก็มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน แต่ละอย่างก็มีความสำคัญมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับรูปแบบของงาน ณ จุดนั้น แต่ยังมีเครื่องมือช่างอีกชิ้นหนึ่งที่บอกได้เลยว่ามีความสำคัญไม่แพ้กับอุปกรณ์อื่นๆ เนื่องจากอุปกรณ์การช่างชนิดนี้เป็นตัวที่ช่วยให้บรรดาโลหะหรือเหล็กเชื่อมต่อติดกัน โดยมักจะใช้ในการสร้างโครงสร้างของบ้านหรือซ่อมแซมต่อเติมส่วนอื่นขึ้นมาอุปกรณ์การช่างที่จะพูดถึงในครั้งนี้คือ “ตู้เชื่อม”
ตู้เชื่อม ( Welding Cabinet ) จะมีลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยม ขนาดนั้นขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือการถูกออกแบบสร้างมา ส่วนมากตู้เชื่อมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นแบบ Inverter โดยอุปกรณ์ที่มีมาให้กับตู้เชื่อมนั้นจะประกอบไปด้วย ตู้เชื่อม, สายไฟ, ตัวหนีบที่ใช้จับลวดเชื่อม, ลวดที่ใช้เชื่อม และหน้ากาก แต่บางยี่ห้อก็ไม่แถมหน้ากากให้ต้องซื้อมาเองหรืออาจจะซื้อแว่นตากันแสงมาก็ได้ แต่ที่นิยมใช้หน้ากากเพราะว่ากันส่วนอื่นบนใบหน้าด้วย
สำหรับวิธีการใช้ตู้เชื่อมในงานช่างนั้นส่วนมากจะใช่เชื่อมเหล็กเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นโครงหรือฐานไว้รองรับ อันดับแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบสภาพความพร้อมของตู้เชื่อม, ตรวจสายไฟ, ตรวจสอบตัวหนีบลวด และหน้ากากว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ จากนั้นให้เสียบปลั๊กตู้เชื่อมแล้วรอซักพักให้ไฟเข้า จากนั้นให้เอาตัวหนีบ มาหนีบลวดเชื่อมเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อเหล็กหรือวัสดุที่ต้องการ เมื่อวัสดุอยู่ในมุมที่เราต้องการก็เอาหน้ากากปิดหน้าและใช้ลวดเชื่อมจิ้มไปตรงจุดที่เราต้องการ จากนั้นเราก็เห็นเป็นสะเก็ดไฟกระเด็นออก หลักในการเชื่อมคือต้องให้เชื่อมทุกส่วนติดเข้าหากันอย่าให้มีช่องว่างอย่างเด็ดขาด
วิธีการเก็บรักษาและดูแลตู้เชื่อม หลังจากที่เราใช้งานตู้เชื่อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนแรกให้เอาลวดเชื่อมนั้นทิ้งไปจากตัวหนีบ และเดินมาปิดเครื่องให้เรียบร้อย จากนั้นก็ถอดปลั๊กออก และสำรวจบริเวณโดยรอบว่าสะเก็ดไฟได้กระเด็นไปโดนอะไรที่มีความเสี่ยงก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือเปล่า จริงๆ แล้วส่วนมากการใช้ตู้เชื่อมมักจะใช้ในที่โล่งแจ้งเป็นหลัก เมื่อตรวจเสร็จแล้วให้ม้วนเก็บสายไฟให้เรียบร้อย เก็บลวดเชื่อมเข้ากล่อง จากนั้นเอาชุบน้ำหมาดเช็คทำความสะอาดตัวตู้เชื่อมให้เรียบร้อย พยายามอย่าให้มีเศษฝุ่นหรือเศษอย่างอื่นเข้าไปในตัวเครื่อง
พยายามตรวจเช็คสายไฟทั้งสายเชื่อมและสายดินว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ พยายามอย่าให้ไอน้ำหรือละอองน้ำเข้าไปในตู้เชื่อมอย่างเด็ดขาด หากต้องการทำความสะอาดด้านในตู้เชื่อมให้เอาลมเป่าแทนจะดีกว่า และอย่างสุดท้ายพยายามอย่าดัดแปลงตู้เชื่อมให้เปลี่ยนไปจากวัตถุประสงค์การใช้ดั้งเดิม แค่นี้ตู้เชื่อมก็จะอยู่กับช่างเป็นเวลานานและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด