
ความรู้พื้นฐานงานช่าง ว่ามีความหมายสำคัญอย่างไร samartdiy
ความรู้พื้นฐานงานช่าง มีความหมายสำคัญอย่างไร
“ช่าง” อาชีพที่อยู่คู่กับมนุษย์เรามาเนิ่นนาน นับตั้งแต่มีการกำเนิดของอารยธรรมมนุษย์ งานช่างถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างอะไรหลายๆ อย่างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่อง, ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ หรือการขนส่งสิ่งต่างๆ ต้องมีงานช่างเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ แม้ว่างานช่างจะดูว่าเป็นงานที่เหนื่อยและหนัก แต่ในสมัยก่อนงานช่างถือได้ว่าเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสูงสุด ครั้งนี้จะพามากับความรู้ช่างพื้นฐานว่ามีอะไรกันบ้าง
ความรู้ช่างในตอนนี้จะกล่าวถึง “ความรู้พื้นฐานงานช่าง” ว่ามีความหมายอย่างไร, มีความสำคัญอย่างไร และได้ประโยชน์อย่างไรกันบ้าง อันดับแรกคือความหมายของ “งานช่าง” ความหมายแรกคือ เป็นการทำงานของช่างๆ หรือเป็นการกระทำที่เกิดจากช่าง โดยส่วนมากมักจะมีคำต่อท้ายเพื่อให้คนได้รับทราบว่างานที่กำลังทำหรืองานที่จะต้องซ่อมแซมนั้น ต้องเรียกใช้ช่างประเภทไหน เช่น ช่างไม้, ช่างไฟฟ้า, ช่างปูน, ช่างยนต์ และช่างประปา เป็นต้น
ความหมายต่อมาของ “งานช่าง” หมายถึง การนำวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งวิธีการ เครื่องมือ ตลอดจนถึงการทำงาน ทั้งแบบอัตโนมัติและแบบแมนนวล มาใช้เพื่อการบำรุงรักษาอุปกรณ์, ของใช้, หรือสร้างตกแต่งเพิ่มเติม หรือเพื่อการติดตั้งเครื่องมือเครื่องใช้ให้สำเร็จอย่างมีระบบ และสามารถใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ตามมา
อย่างต่อมาคือ “งานช่างพื้นฐาน” ความหมายคือ เป็นงานช่างเบื้องต้น เหมือนกับการซ่อมแซมหรือติดตั้งในเบื้องต้นอยู่ในจุดที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือแก้ไขเบื้องหน้าก่อนที่จะแจ้งให้ช่างมาทำการซ่อมแซมหรือติดตั้งต่อไป ซึ่งส่วนมากงานช่างพื้นฐานนั้นจะเป็นการซ่อมแซมและใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีต้นทุนสูงมากนัก และงานชนิดนั้นไม่สลับซับซ้อนยากจนเกินไป เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟ, การเปลี่ยนกลอนประตู หรือการซ่อมแซมเล็กๆ น้อยๆ เป็นต้น
สำหรับประโยชน์ของงานช่างพื้นฐานนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ ประโยชน์โดยตรงและประโยชน์ทางอ้อม โดยประโยชน์ทางตรง คือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการที่จะต้องไปเรียกช่างมาซ่อมแซม, ประหยัดเวลาในการติดต่อช่าง, สามารถควบคุมเวลาและงบประมาณได้เองรวมถึงเลือกเครื่องมืออย่างที่เราต้องการได้, สามารถยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือซ่อมแซมและอุปกรณ์ต่างๆ
ส่วนประโยชน์ทางอ้อมของงานช่างพื้นฐานคือ เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์, ทำให้เรารู้สึกสนุกสนานเพลินไปกับสิ่งที่ซ่อม, ทำให้เกิดความชำนาญ เชี่ยวชาญโดยไม่รู้ตัว และสามารถนำไปต่อยอดด้วยการเรียนรู้เพิ่มเติม อาจสร้างเป็นอาชีพขึ้นมาได้, ทำให้รู้จักวิธีใช้อุปกรณ์ประเภทต่างๆ อย่างถูกวิธี และสุดท้ายคือช่วยผ่อนคลายเรื่องเครียดต่างๆ ทำให้เกิดความสมดุลภายในร่างกายได้เป็นอย่างดี (ต่อบทที่ 2)